วันนี้ผมจะขอกล่าวถึงคุณค่าของคนโดยเฉพาะ โดยปกติมนุษย์ปุถุชนตระหนักและปรารถนา ที่จะให้ผู้อื่นเห็นว่าตนเป็นบุคคลที่มีคุณค่า ต้องการคำชมเชย ต้องการให้บุคคลรอบข้างปฏิบัติต่อตนอย่าง สมควร ไม่ต้องการให้ใครมองดูตนในเชิงดูถูกดูแคลน หรือพูดคำให้คนไม่นับถือ
คงจะด้วยเหตุผลดังกล่าวมนุษย์จึงพยายามยกย่องตนเองในรูปแบบต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่ง การพูดยกย่องตนเอง ผู้ที่พยายามจะพูดยกยอตนเองคงไม่ทราบว่ายิ่งพูดยกยอตนเองมากเท่าใด คุณค่าในเขา ผู้นั้นก็จะลดลงเรื่อยๆ บางคนร้ายกว่านั้นอีกคือไม่เพียงแต่เขาจะพยายามยกย่องตนเอง พร้อมๆ กันเขาพูดทำลายชื่อเสียงบุคคลอื่นด้วยเพื่อทำให้ตนเองเด่นขึ้น พระธรรมสุภาษิตกล่าวว่า "อย่ายกย่องตนเองด้วยปากของเจ้าเอง ให้คนอื่นเป็นผู้ยกย่องไม่ใช่ด้วยริมฝีปากของเจ้าเอง" สุภาษิต 27:2
การยกย่องจากปากผู้อื่นจะต้องออกมาจากใจจริง ไม่ใช่การขอยืมปากผู้อื่นด้วยการขอร้อง หรือ บังคับ หรือให้ผลประโยชน์ต่างๆ ตอบแทน "คนอื่น" ผู้นั้นจะต้องเป็นบุคคลใกล้ชิด มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน สามัคคีธรรม และเป็นบุคคลที่สังคมยกย่องด้วยจึงจะทำให้ "คำยกย่อง" มีคุณค่า
อะไรคือคุณค่าในมนุษย์ที่รับกันว่าเป็นที่น่ายกย่อง ถ้าจะต้องกล่าวรายละเอียดคงจะต้องเขียน หนังสือเป็นเล่ม แต่ผมขอพูดเพียงข้อเดียวคือ "ไว้ใจได้" ภาษาอังกฤษคือ "Trustworthy"
บุคคลที่สัมผัสได้ว่า ไว้ใจได้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงคำพูดหรือการคบค้าสมาคมในระยะสั้นๆ บางคน พูดว่าคุณค่าของคนวัดที่ผลของงาน คำพูดนี้มีความจริงระดับหนึ่งเพราะเราพบว่ามีคนมากมายเป็น คนเก่ง พูดเก่ง บริหารเก่ง มนุษย์สัมพันธ์ดี มีผลงานปรากฏแก่สายตาสาธารณชน แต่ชีวิตเบื้องหลังเต็มไป ด้วยความเลวร้ายที่ปกปิดไว้กว่าจะเปิดเผยได้หลายคนก็เสียรู้ไปแล้ว
คนที่ไว้ใจได้ที่แท้ต้องผ่านการทดสอบ ดั่งพระธรรมสุภาษิตได้กล่าวไว้ว่า "มนุษย์ใช้เบ้าหลอม ทดสอบเงินและใช้เตาถลุงทดสอบทองคำ แต่องค์ผู้เป็นเจ้าทรงทดสอบจิตใจ" สุภาษิต 17:3
"เมื่อไล่ขี้แร่ออกจากเงิน ช่างเงินก็จะสร้างสรรค์รางวัลชนะได้" สุภาษิต 25:4
การทดสอบประการแรก คือ ความแน่ใจว่าพระเจ้ารับรอง ไม่ขัดต่อทางของพระเจ้า
การทดสอบประการที่สอง คือ มโนธรรมของตนเองไม่ฟ้องผิด “พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้ ทำหน้าที่ของตนต่อพระเจ้าด้วยจิตสำนึกอันดี (มโนธรรม)” กิจการ 23:1
การทดสอบประการที่สาม คือ ยืนหยัดในความถูกต้องแม้ยากลำบาก
"ความสุขมีแก่ผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะความชอบธรรม..............." มัทธิว 5:10
ขอให้ทุกคนดำรงตนอย่างมีคุณค่า และรักษาคุณค่านั้นดั่งเกลือที่รักษาความเค็ม